เดี๋ยวนี้ ถ้าใครที่เป็นนักกินตัวจริง ก็ต้องมีร้านอาหารอิตตาเลี่ยนที่เป็นที่หนึ่งในดวงใจ ไม่ว่าจะเป็นร้าน Pizzeria แบบง่ายๆ ไปยันร้านหรู แบบ Fine Dining แต่ละร้านล้วนมีเอกลักษณ์ที่น่าค้นหาเป็นตัวของตัวเอง วันนี้วงในจะพาทุกท่านลี้ออกมานอกเมืองไปที่แถบ ตลิ่งชัน ที่เงียบสงบ แล้วมาลิ้มลองอาหารอิตาเลี่ยนแบบ Simple มีกลิ่นอายความเป็น Home-Made ในทุกอณู ทั้งบรรยากาศและเมนู ขอต้อนรับทุกท่านสู่ร้าน IL Mare
พอเข้ามาในร้านประตูไม้ ก็จะได้สำผัสกับบรรยากาศที่แสนเป็นมิตร ที่ความอบอุ่นกับทั้งกายและใจด้วยโทนสีไม้ แบบเรียบๆ พร้อม Furniture แบบ ร่วมสมัย ได้อารมณ์ประมาณ Trattoria หรือร้านอาหารพื้นบ้านของประเทศอิตตาลี
เมนูอาหารของ IL Mare ก็จะเป็นเมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่เราคุ้นเคยกันดี ที่ประยุกต์ความเป็นไทยลงไปนิดหน่อย แต่ที่พิเศษสุดๆคือ ทางร้านทำการเคี่ยวน้ำซุปและทำซอสทุกชนิดขึ้นมาเอง ชวนลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง จะจัดหนักกันสักมื้อก็ต้องเรียกน้ำย่อยกันก่อน เริ่มต้นด้วย “Bruschetta” (60บาท) ขนมปังโรยหน้าด้วยเครื่องที่มีให้เลือกถึง 4 ชนิดด้วยกัน เสร็จแล้วก็โรยหน้าปิดท้ายด้วยชีส มอสซาเรลล่านำไปอบจนชีสเยิ้มกลิ่นหอมชวนรับประทาน
ส่วนใครที่นิยมหอยลายรสจัดจ้านขึ้นอีกนิด ก็จัดไปเลยกับ “Garlic Vongole” (120บาท) เสิร์ฟในจานพิเศษแบบเป็นหลุมๆ ในแต่ละหลุมก็จะอุดมไปด้วย หอยลายอบเนยกระเทียมหอมกรุ่น โรยหน้าตบท้ายด้วยชีส มอสซาเรลล่า ส่วนวิธีทานก็นำขนมปังกระเทียมจิ้มเข้าไปในหลุมและก็ช้อนเอาเครื่องหอยลาหอมๆขึ้นมาให้หมดภายในรวดเดียวเลย
มาถึงร้าน “IL Mare” ถ้าไม่ลองชิมซุปของเขาอย่าง “ซุปผักโขม” (65บาท) ก็ถือว่าพลาด เพราะทำจากผักโขมนำเข้าอย่างดีไร้สารปรุงแต่งและผงชูรส จึงได้รสชาติที่สะอาดสะอ้านหอมกลิ่น Herbs รสสัมผัสข้นแบบกำลังดี สำหรับใครที่ต้องการความอิ่มท้อง ทางเราก็อยากให้ลิ้มลองกับ “Mashed Potato” (50บาท) หอมกลิ่นเนย รสชาติและTextureเข้มข้นมีเอกลักษณ์
พูดถึงความอิ่มท้องแล้วก็ขอเข้าเรื่องพาสต้าเลย เมนูพาสต้าของที่นี่จะใช้เส้นสปาเก๊ตตี้อย่างดี ลวกแบบตำหรับอิตาเลี่ยน หรือที่เขาเรียกกันว่า Al-dente โดยรสสัมผัสของพาสต้าจะหนึบสู้ฟันนิดๆ เข้ากันได้ดีกับซอสหลากชนิดและยิ่งถ้าเป็นซอสที่ปรุ่งแบบง่ายๆแต่ พิถีพิถัน ก็สามารถเป็นจานเด็ดได้เลยทีเดียว อย่าง “Cream Prawn Spaghetti” (120บาท) ซึ่งชื่ออาจจะดูธรรมดาแต่ จริงๆรสไม่ธรรมดาเลย เพราะตัวซอสครีมอัดแน่นไปด้วยรสชาติจากทะเลเพราะทำจากน้ำสต๊อกกุ้งที่ทางร้านเคี่ยวเองมากับมือ นำมาต้มจนง่วนด้วยไฟอ่อนๆแล้วค่อยใส่เครื่องทะเลสดๆอย่างกุ้งทะเลเด้งๆตบท้ายด้วยครีมสด และค่อยนำไปคลุกเคล้ากับเส้นจนได้ที่
ใครที่ชอบรสชาติที่เผ็ดจัดจ้านแบบไทยๆขึ้นมาอีกหน่อยก็จัดหนักแบบเรียบง่ายกับ
“สปาเก๊ตตี้ทะเลผัดขี้เมา” (150บาท) ที่อัดแน่นด้วยหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาหมึกและกุ้งผัดเข้ากับพริกชี้ฟ้า พริกไทสด ใบกระเพรา กระเทียมและน้ำมันมะกอก เป็นการผสานรสชาติระหว่างไทยและอิตาเลี่ยน ได้อย่างลงตัวสุดๆ
เมนูต่อไปถือได้เลยว่าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของร้านอาหารอิตาเลี่ยน ใช่เลย! นั่นก็คือ พิซซ่า และพิซซ่าของที่นี่จัดได้ว่าต้องลอง แล้วถ้ายิ่งเป็นคนชอบทานพิซซ่าแบบขอบบางยิ่งห้ามพลาด ไม่ว่าจะเลือกหน้าไหนก็จะสามารถ Enjoy กับ texture ที่กรอบนอกนุ่มใน พร้อมกลิ่นแป้งที่สดใหม่ เพราะทางร้านหมักแป้งพิซซ่าเองแบบวันต่อวัน และด้วยตัวเลือกกว่า 16 option (ราคาเริ่มต้นที่ 140 บาท) รับรองมาทานกี่ครั้งก็ยากที่จะเบื่อ
ได้มาลองดูทั้ง Appetizer, Pasta และ พิซซ่าของทางร้านกันแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาออกโรงของเมนูเด็ดของ “IL Mare” อย่าง “ทะเลซอสคูลแซ่บ” (150บาท) ซึ่งจานนี้ก็พึ่งจะได้รับรางวัลจากรายการ “The Dish” มาแบบสดๆร้อนๆ เมนูนี้จะประกอบด้วยอาหารทะเลรวมมิตรไม่ว่าจะเป็น ปลาแซลมอน ปลาหมึก และกุ้ง ที่คลุกเคล้าในน้ำมันมะกอกและ โรยด้วยใบไทม์ อบในเตาจนสุกเนื้อนุ่มกำลังดี เสริฟ์ในอูณหภูมิห้องพร้อมกับซอสเย็นๆรสเข้ม ถึง 2 แบบ ทั้งแบบผสมเพสโต้ และซอสมะเขือเทศ และทั้งแบบน้ำจิ้มซีฟู้ดผสมครีมรสกลมกล่อม เวลาทานแนะนำให้ใช้แครอทมาคนซอส ให้เข้ากันแล้วค่อยเอาเครื่องทะเลมาจิ้ม ยิ่งทานพร้อมกับกระเทียมอบนิ่มๆรสหวานปะแล่มๆก็จะยิ่งได้อรรถรส เป็นการปรุงแบบง่ายๆที่สามารถแสดงความสามารถของเชฟได้อย่างดีเลิศ
สำหรับใครที่ชื่นชอบสลัดทางร้านก็มี “Spicy Salmon Salad” (160บาท) ที่ผนวกความเป็นไทยกับฝรั่งได้อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นน้ำสลัดที่ผสมน้ำจิ้มซีฟู๊ด ก่อนทานก็คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ส่วนใครที่อยากได้จานเนื้อสัตว์ที่เป็นชิ้นเป็นอัน “IL Mare” ก็จัดให้กับ “Pork Chop” (140บาท) ชิ้นโตติดกระดูก ที่ผ่านการหมักด้วยน้ำมันมะกอกและ Herbs ต่างๆจึงนุ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำซุป ทานพร้อมกับซอสองุ่นหวานกลมกล่อมสูตรพิเศษประจำร้านก็จะยิ่งได้ อรรถรสแบบเต็มพิกัด
นอกจากเมนู Signature แบบอิตาเลี่ยนก็ยังมีของหวานแบบ Home made สไตล์ฝรั่งเศสให้ลิ้มลองอีกด้วย ด้วยอาหารที่ ทั้งสดทั้งใหม่ ปรุงด้วยใจแบบวันต่อวัน เห็นแบบนี้ก็คงต้องบึ่งออกนอกเมือง ไปตลิ่งชันแล้วลิ้มลอง เสียแล้วค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น