วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เนื้อเค็มต้มกะทิ


เนื้อเค็มต้มกะทิ สูตรโบราณ

    เนื้อเค็มต้มกะทิ เป็นสูตรที่หาทานได้ยากมากค่ะ ในปัจจุบันนี้ค่ะ เพราะ ไม่ค่อยมีคนทราบขั้นตอนการทำ และ เป็นสูตรที่ไม่ค่อยมีคนทราบมากนักค่ะ แต่วันนี้เราจะ นำสูตรมาเผยแพร่ให้คนรุ่นหลังๆที่ยังไม่เคยได้ลิ้มลองรสชาติ เนื้อเค็มต้มกะทิ ได้ลองทำทานกันดูค่ะ

ส่วนประกอบ

เนื้อเค็ม หรือ เนื้อแดดเดียว 300 กรัม (เปลี่ยนเป็นหมูเค็มได้) 
กะทิ 3 ถ้วย (คั้นหัวกะทิ 1 ถ้วย – หางกะทิ 2 ถ้วย)
หอมแดงซอย 20 หัว 
น้ำตาลปีบ 2-3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร และ น้ำปลา (มากน้อยตามชอบ)
พริกขี้หนูเม็ดเล็ก 
ใบมะกรูดฉีก
ใบมะกรูดซอย สำหรับโรยหน้า



เนื้อเค็มต้มกะทิ เมนูโบราณ(ชาววัง)


วิธีทำ

   ย่างเนื้อเค็ม แล้วทุบให้นิ่ม แล้วฉีกเป็นเส้น หรือหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ตามภาพก็ได้ 
นำหางกะทิใส่หม้อ ใส่เนื้อเค็มและหอมแดงลงเคี่ยวกับหางกะทิด้วยไฟอ่อน ๆ เคี่ยวจนงวด
(ถ้าใช้กะทิชนิดกล่อง ถ้าหัวกะทิข้นมาก ให้นำหัวกะทิผสมกับน้ำเล็กน้อย เพื่อใช้เป็นหางกะทิ)
หรือเคี่ยวจนกวาเนื้อเค็มจะเปื่อย แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา และเกลือป่น, น้ำตาลปีบ ชิมรสตามชอบ
ใส่พริกขี้หนู ฉีกใบมะกรูดใส่ไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ไม่ควรให้พริกขี้หนูสุกมากเกินไป ดับไฟเตา 
ตักเนื้อเค็มต้มกะทิใส่ชาม โรยใบมะกรูดซอย นำเสริฟขณะที่ยังร้อน ๆ ถ้าปล่อยให้เย็นตัวจะขึ้นไข

หมายเหตุ - เนื้อต้มกะทิแบบนี้รสชาติคล้ายหลนกะทิ จึงรับประทานกับผักสดต่าง ๆ ได้นะคะ


นำหางกะทิใส่หม้อ ใส่เนื้อเค็มและหอมแดงลงเคี่ยวกับหางกะทิด้วยไฟอ่อน ๆ เคี่ยวจนกะทิงวด
(ถ้าใช้กะทิชนิดกล่องและหัวกะทิข้นมาก ให้นำหัวกะทิผสมกับน้ำเล็กน้อยเพื่อใช้เป็นหางกะทิ)




ปรุงรสด้วยน้ำปลาอย่างดี, เกลือป่น, น้ำตาลปีบ 
ชิมรสตามชอบแล้วใส่พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็กลงไป 





เมื่อใส่พริกขี้หนูไปแล้ว อยากจิบอกว่ากลิ่นหอมแบบที่เคยกินตอนมารดาทำนั้น มันใช่เลย 
กลิ่นพริกผสมกับหอมและหัวกะทิ โอ้ววว แม่เจ้า กลิ่นเมนูโบราณมันช่างหอมจรุงจิตมาก 




ฉีกใบมะกรูดบางส่วนใส่ไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ไม่ควรให้พริกขี้หนูสุกมากเกินไป ดับไฟเตา 




สมุนไพรไทยล้วนให้กลิ่นหอมที่สดชื่น กลิ่นหอมชื่นใจ ใบมะกรูดสด ๆ ฉีกใส่ไป ส่งกลิ่นโชยทันที




กระทะนี้ทำรอบที่สอง ใช้เนื้อเค็มแบบอบ ไม่ได้ตากแดดเนื่องจากช่วงนี้ฝนลงทุกวัน ตากแล้วไม่แห้งสนิท
ก็เลยต้องใช้วิธีอบแห้งหมาดๆ แล้วเก็บใส่ช่องแช่แข็ง สีสันไม่เข้มจัดเหมือนำออกตากแดด แบบนี้แห้งสนิท



   ตักเนื้อเค็มต้มกะทิใส่ชาม โรยใบมะกรูดซอยฝอย นำเสริฟ 
เนื้อต้มกะทิแบบนี้รสชาติคล้ายหลน จึงรับประทานกับผักสดต่าง ๆ ได้




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น