ชีสเค้กหน้าตาหวานแหวว สีสันชมพูพิ้งกี้แบบนี้จัดเป็นหนึ่งในตระกูลชีสเค้กทั้งหลายทั้งปวง สีสันได้ใจมากมาย เค้กแบบนี้เหมาะที่จะมอบให้ทุก ๆ คนอันเป็นที่รักในวันสำคัญ ๆ
นอกจากสีสันหวานแหววหน้าตาสะสวยงามแล้ว รสชาติของมันยังไม่เป็นสองรองใครด้วยน๊ะ
ส่วนผสมครีมชีส ...
- ครีมชีส (ขนาด 250 กรัม) 2 ก้อน
- น้ำตาลไอซิ่ง 200 กรัม
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- ผิวมะนาวหรือผิวส้มขูด 1 1/2 ช้อนชา
- ผงเจลาติน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- สตอเบอรี่หั่นละเอียด 300 กรัม (มากน้อยแล้วแต่ความชอบ)
- วิปปิ้งครีม 8 ออนซ์
สตอเบอรี่สีแดงจัดจ้านตัวการสำคัญในการทำเค้กหน้าตาแบบนี้ให้ดูดี มีรสชาติ หลายสายพันธ์
ระยะนี้สตอเบอรี่ในเมืองไทยแอบแพงมากคะ
ชีสเค้กสูตรนี้ใส่วิปปิ้งครีมผสมเข้าไปด้วย ขอเพิ่มโยเกิร์ตรสสตอเบอรี่ใส่เข้าไปด้วย
ใส่สตอเบอรี่โยเกิร์ตเข้าไปแล้วรู้สึกได้เลยว่าครีมชีสมีกลิ่นหอม รสชาติดีด้วย ขอบอก
โดยเอาวิปปิ้งครีมผสมรวมไปกับโยเกิรต์ .. โอ๊ะโอ ขาว-ชมพู สีสันสวยงาม ได้ใจมากมาย
เตรียมพิมพ์ถอดข้างขนาด 9 นิ้ว ปูกระดาษไขโดยรอบรอไว้ก่อน
มาวางฐานรากเค้กกันก่อน ..
บิสกิตบดละเอียด ผสมกับเนยละลาย แอดมินใช้เนยเค็มเพราะอยากได้สามรส เปรี้ยว-หวาน-เค็ม
เค็มของฐานราก เปรี้ยวของครีมชีสตรงกลาง และหวานปะแล่ม ๆ ของหน้ามูสสตอเบอรี่นั่นเอง
วางฐานรากเรียบร้อยลงมือสร้างอาคารกันต่อ ...
- ในโถผสม ครีมชีสอ่อนตัว ใส่น้ำตาล [แอดมินใช้น้ำตาลไอซิ่งในการทำชีสเค้กทุกชนิดนะคะ]
- ตีครีมชีสและน้ำตาลนวลเนียนดีแล้ว ใส่เจลลาตินละลาย ใส่วิปปิ้งครีมที่ผสมโยเกิร์ต์ลงไป
ขอใส่ผิวมะนาวขูดและน้ำมะนาวไปด้วย ผิวมะนาวหรือผิวส้มขูดทำให้ครีมชีสรสชาติเข้มข้น
- ได้ครีมชีสสีชมพูนวลเนียน มองเห็นผิวมะนาวขูดด้วย
- ใส่สตอเบอรี่หั่นละเอียดลงไปแล้วเกลี่ยให้ทั่ว ให้กระจายทั่ว ๆ
- วิธีการแบบเดียวกับการทำชีสเค้กมะม่วง เอาเนื้อสตอเบอรี่โรยใส่ไป
บนหน้าครีมชีสอีกรอบก่อนปิดทับด้วยหน้ามูสสตอเบอรี่ก็ได้นะคะ
- คนและเกลี่ยจนหน้าเรียบแล้ว ห่อพิมพ์ด้วยฟิลม์ใส
แล้วนำไปแช่เย็นต่ออีกประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง
มาถึงขั้นตอนการแต่งหน้าทาสีกันต่อ ...
- ใส่หน้ามูสสตอเบอรี่
- น้ำตาลทราย 160 กรัม [ถ้าสตอเบอรี่มีรสหวาน ลดน้ำตาลลงได้]
- น้ำ 80 กรัม
- ผงเจลลาติน 4 ชช.
- สีแดงผสมอาหาร 1-2 หยด
- เนื้อสตอเบอรี่ 200-300 กรัม [มากน้อยตามชอบ]
- วิปปิ้งครีม 300 กรัม [แอดมินลดเหลือ 200 กรัม]
- เอาหม้อตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทราย ใส่น้ำเปล่า เคี่ยวน้ำตาลให้ละลายเป็นน้ำเชื่อม
- ใส่เนื้อสตอเบอรี่ลงไป ใส่เจลลาตินละลาย เร่งไฟให้แรง ๆ เดือดแล้วปิดเตาทันที
แอดมินไม่ชอบกวนเนื้อสตอเบอรี่นานเกิน หากสุกเกินไปเนื้อจะเละ กลัวจะไม่หอม
- ตอนใส่วิปปิ้งครีมไปแล้วสีของมูสจืดจางเลยต้องเพิ่มสีผสมอาหารสีแดงแจ๊ดลงไป
- ใส่สีลงไปสักหยด-สองหยด จะได้สีหน้าที่คมเข้มขึ้น ... หน้าตาสะสวยได้อีก
- ทิ้งให้เย็นตัวแล้วจับใส่เครื่องผสมปั่นให้ละเอียด เติมวิปปิ้งครีมลงไป แล้วเอามาราดบนครีมชีส
เสร็จแล้วแรพด้วยพลาสติกใส นำเข้าแช่เย็นต่ออีกประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้นก็ได้
- หน้ามูสเซทตัวแล้วแกะพิมพ์ออก ดึงกระดาษไขรอบ ๆ พิมพ์ออกด้วย
[การปูกระดาษไขรอบ ๆ พิมพ์จะวางหรือไม่วางก็ได้ ตรงนี้ไม่จำเป็น]
ที่แอดมินปูลงไปเพราะเบื่อการล้างพิมพ์คะ ครีมชีสมักจะติดรอบ ๆ พิมพ์
- ถอดออกจากพิมพ์แล้วลอกกระดาษรอบ ๆ ออก เปลื้องผ้าผ่อนแล้วได้หน้าตาแบบนี้คะ
แต่งหน้าให้สะสวยด้วยสตอเบอรี่สดกันหน่อย สีสันชมพูได้ใจมากมาย ... แหล่มเลย
- เวลาตัดชีสเค้กควรเอามีดฟันเลื่อยไปจุ่มน้ำร้อนแล้วค่อยเอามาตัดจะได้ผิวเรียบ ๆ
ขณะตัดต้องทำเวลาหน่อย เจออากาศร้อนอบอ้าวแบบบ้านเรา เค้กละลายเร็วมาก
จะให้ดีต้องเอาไปตัดในห้องแอร์ที่เปิดแอร์แบบเย็นฉ่ำ จะได้เค้กแบบเรียบกริบ
มาแอบดูเนื้อในของคุณเธอกันหน่อย อดใจไม่ไหว ขอตัดชิมหน่อยเถอะ ซี๊ดดดดด ... เย็นชื่นใจดีจัง ..
ทำใส่ถ้วยแบบนี้ก็สะดวกดี กินง่ายไม่เลอะเทอะ ใส่ถ้วยแล้วจับเรียงซ้อน ๆ ในตู้เย็น ไม่ต้องระวังมากเหมือนทำใส่พิมพ์
- รอบนี้สตอเบอรี่สุกงอมไปหน่อย ซื้อทิ้งไว้หลายวันกว่าจะได้ลงมือทำ
- ทำเสร็จสรรพไม่ค่อยมั่นใจ เกรงว่าเนื้อสตอเบอรี่จะสุกงอมเกิน เกรงจะไม่อร่อยเท่าที่ควร
บอกน้องสาวว่าเดี๋ยวฉันจะทำให้ใหม่ อันนี้เอาไว้กินที่บ้านเถอะ ฉันไม่กล้าเอาไปออกงาน
น้องสาวเห็นเราไม่มั่นใจอาสาจะเป็นผู้ชิมให้ ชิมแล้วเธอฟันธงว่ามันก็โอเค ค่อยโล่งอก
คุณน้องสาวไปเรียกคุณพี่สาวให้มาชิมด้วย เพื่อความมั่นใจแบบร้อยเปอร์เซนต์ไปเลย
หนูทดลอง คุณพี่สาวคอมเมนท์ว่าเนื้อสตอฯ งอมไปนิดแต่ก็โอเคแล้ว ไม่มีปัญหา .. จัดไป
- ตอนแรกว่าจะไปตัดที่งานเลี้ยง นึกได้ว่ามันเป็นชีสเค้ก ยุ่งยากเรื่องการเก็บ ต้องแช่เย็นตลอด
จัดการตัดไปจากที่บ้าน แรพด้วยพลาสติกเบ็ดเสร็จ จับเรียงใส่กล่องแบบนี้สะดวกกว่าเยอะ
อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ ได้ชีสเค้กเย็น ๆ สักชิ้น .. ชื่นใจจริง ๆ