สเต็กงูหางกระดิ่ง (RATTLE SNAKE)

สเต็กงูหางกระดิ่ง (RATTLE SNAKE)

   อาหาร ต่อไปนี้ได้มาจากสัตว์ที่อันตรายที่สุด ไปที่ เท็กซัส อเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งของงูหางกระดิ่งที่ชุกชุมที่สุด ที่นี่
มีเทศกาลเกี่ยวกับ งูหางกระดิ่งชื่อว่า แรทเทิ้ล สเน็ก ราว อัพ (RATTLESNAKE ROUND-UP)   

   นอกจากมีงูตัวใหญ่มาให้ดู ยังมีเมนูเด็ดที่เกี่ยวกับงูด้วย สเต็ก.. ใครๆ ก็ชื่นชอบ แต่ทั่วทั้งเท็กซัสมีแต่สเต็กงูหางกระดิ่งเต็มไปหมด แล้วคุณ
ยังอยากจะชื่นชอบอยู่มั้ย ที่ร้านบิ๊ก เท็กซาน แรนช์ (BIG TEXAN RANCH) เขาขอเปิดเมนูงูด้วยการทอดมัน คลุกเข้
กับแป้งจนกรอบได้ที่ และเสิร์ฟพร้อมกับฮาลาปีโน่ (HALAPENO) รสชาติเผ็ดๆ กับเนื้อสเต็กที่แปลกออกไป ลองคุณ
ได้ทานคุณจะไม่กลัวอะไรอีกเลย

   เนื้องูหางกระดิ่งสดๆ  เตรียมเนื้องูแสนอร่อย ขูดหนัง ทำความสะอาด
แล้วนำเนื้องูหางกระดิ่งทอดกรอบ เค้าว่ารสชาติเหมือนเนื้อไก่  
มีเนื้องูอัดกระป๋องด้วย เนื้องูแช่แข็ง หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาเก็ตแถวเท็กซัส ราคา ติดว่า 115.40 $       

เปิปพิศดารไข่ข้าว (BALUT)

ไข่ข้าว (BALUT)

    ผ่าน ร้อนผ่านหนาวกับการชิมอาหารประหลาดมาแล้วทั่วโลก แล้วจะกลัวอะไรกับที่สุดในรายการด้วยอาหาร
ธรรมดาแค่ไข่ต้ม แต่ในนั้นนี่สิสำคัญกว่า ที่ มะนิลา ฟิลิปปินส์

   ไข่ต้มของที่นี่อาจ ทำให้คนไม่เคยกิน  ร้องกรี๊ด แน่นอนอาหารพิสดารอันดับ 1 ย่อมไม่ธรรมดา และยอดนิยมเอามากๆ ด้วย ไข่ข้าว คือ ไข่ต้มที่มีตัวอ่อน ของ
เป็ดอยู่ ข้างใน รับรองว่ามันสุก แค่เราเพิ่มไส้มีตัวเป็ดเล็กๆ อยู่ข้างในแค่นั้น ไข่เป็ดทุกใบ  ที่นำมาทำเป็นไข่ข้าว
ต้องผ่านกระบวนการฟัก และ  วิธีการ  รักษาอุณหภูมิให้คงที่  โดยหลังจาก 8 วัน ไข่ที่ตัวอ่อนยังมีชีวิตเท่านั้นที่
เหมาะจะมาทำเป็นไข่ข้าว ถ้าคุณไม่อาจกินไข่ต้มแบบนี้ได้ ลองทำเป็น ซาเต้(SAUTEED), พาเต้(PATE) หรือ 
ซูเฟ้ (SOUFFE’) ดู แล้วคุณจะลืมความหลังที่เกี่ยวกับตัวของมัน

   เค้าว่าวิธีเลือกไข่ข้างคือเลือกที่ฟองหนักๆ จะอร่อย เนื้อแน่น  ไม่รู้มีขายที่ไหนบ้าง 
ที่ฟิลิปปินส์เค้าขายแบบนี้แหละ ประเทศที่นิยมกินยังมีกัมพูชา,ลาว,วียดนาม,ไทยก็ด้วยฝรั่งบางกลุ่มก็กิน
ปอกเปลือกแล้วหน้าตาแบบนี้   รับประทานโดย  แช่ในน้ำจิ้ม เพิ่มความแซ่บ

ที่มา mythland / oknation

ขอขอบคุณรูปภาพจาก Rungsira.spaces.live.com

ที่พักฉบับขุนเขาและธรรมชาติวันนี้ขอเสนอทับเบิกฮิลล์ - ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

ทับเบิกฮิลล์ - ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

   ใครที่ยังช้าอยู่ต้องรีบแล้วคะ บรรยากาศดีๆหน้าหนาวแบบนี้อย่าปล่อยให้เราต้องอยู่กับบ้านอย่างเดียว ต้องพาครอบครัว คนรัก เพื่อนสนิท มิตรสหายมาเที่ยวที่นี่กันแล้วหล่ะคะ ยิ่งใครที่ชอบธรรมชาติ สวนกะหล่ำปลีด้วยแล้วต้องเป็นที่นี่เลย ห้ามหลาดเด็ดขาดคะ

   รับลมหนาว ชมดาวบนดิน เยือนถิ่นกะหล่ำปลี ที่นี่ทับเบิกฮิลล์ ภูทับเบิกรับรองว่าใครที่มาพักจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับไร่กะหล่ำปลีขนาดใหญ่ได้ที่นี่เท่านั้นคะ มาชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณ กะหล่ำหัวใหญ่ๆสวยๆได้ที่นี่เลยคะ

ขอขอบคุณภาพจาก chillpainai 

เสน่ห์ที่น่าหลงไหล ไร่ตายาย - ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

  

   นี่ไงๆ หน้าหนาวแล้วเรามาเปลี่ยนบรรยากาศกันเถอะคะ กับที่เที่ยวที่พักในเมืองไทยที่สวยๆหลายที่ แต่วันนี้แอดมินจะยกสถานที่นี้มาให้หลายๆคนเตรียมตัววางแพลนในวันหยุดยาวๆกันนะคะ นั่นคือ สวนตากับยาย นั่นเองคะ ช่างเป็นบรรยากาศที่น่าฟินมากๆ  ใครยังไมาเคยเห็นวันนี้แอดมินมีภาพมาให้ชมกันด้วยจ้า

   ใครที่อยากไปตามรอยละครธรณีนี้ใครครอง แบบณเดช กับ ญาญ่า ต้องไปพักที่ไร่ตายาย ภูทับเบิกเลยจ้า ที่พักมีให้เลือกทั้งแบบกางเต๊นท์นอน และแบบบ้านกระท่อมไม้ไผ่ รวมถึงบ้านปูนด้วยจ้า มีหลากหลายบรรยากาศกันเลยทีเดียว ใครที่ยังไม่เคยไป ต้องไปนะจ๊ะ

ติดต่อสอบถามได้เลยคะ โทรศัพท์ : 081-8887932
ขอขอบคุณภาพจาก chillpainai 

ที่พักฉบับหน้าหนาวต้องที่นี่เลยทับเบิกฮิลล์ - ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

 

   ใครที่ยังช้าอยู่ต้องรีบแล้วคะ บรรยากาศดีๆหน้าหนาวแบบนี้อย่าปล่อยให้เราต้องอยู่กับบ้านอย่างเดียว ต้องพาครอบครัว คนรัก เพื่อนสนิท มิตรสหายมาเที่ยวที่นี่กันแล้วหล่ะคะ ยิ่งใครที่ชอบธรรมชาติ สวนกะหล่ำปลีด้วยแล้วต้องเป็นที่นี่เลย ห้ามหลาดเด็ดขาดคะ

   รับลมหนาว ชมดาวบนดิน เยือนถิ่นกะหล่ำปลี ที่นี่ทับเบิกฮิลล์ ภูทับเบิกรับรองว่าใครที่มาพักจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับไร่กะหล่ำปลีขนาดใหญ่ได้ที่นี่เท่านั้นคะ มาชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณ กะหล่ำหัวใหญ่ๆสวยๆได้ที่นี่เลยคะ

ขอขอบคุณภาพจาก chillpainai 

ออนทัวร์ดีๆวันนี้ไปกับ Primo Piazza (พรีโมเพียซซ่า)

  เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา สถานที่น่าพักผ่อน อากาศดี เพราะมีแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ป่าเขาวิวทิวทัศน์สวยงาม แถมมี ที่เที่ยวเขาใหญ่ มากมายให้เดินเล่น ใครแวะไปเขาใหญ่อย่าลืมแวะไปถ่ายภาพเพลินๆ กับที่เที่ยวสุดชิลล์

  Primo Piazza (พรีโมเพียซซ่า) คือสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเขาใหญ่ ที่ปรับปรุงมาจาก primo posto โดยมีแนวคิดในการนำสถาปัตยกรรมจากแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี มาจำลองไว้ ซึ่งมีมุมสวยๆ หลากหลายให้ได้ถ่ายภาพกันมากมาย 

primo posto ยังมีโซนของ Barn ซึ่งที่นี่คุณจะได้เพลิดเพลินกับความน่ารักของ อัลปาก้า แกะเมอริโน่ และดองกี้ ซึ่งแต่ละตัวนั้นแสนจะเชื่องและรู้งานเป็นที่สุด

บัตรผ่านประตู 
9.00 - 17.30 น. : ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็ก 50 บาท  บัตรผ่านประตูเป็นส่วนลดค่าอาหารได้ 10%
หลัง 17.30 น. เปิดให้บริการเฉพาะร้านอาหาร ไม่เสียค่าผ่านประตู

เปิดบริการ : วันอาทิตย์ - พฤหัสบดี เวลา 9.00 - 22.00 น. และวันศุกร์ - เสาร์ เวลา 9.00 - 24.00 น.
โทรศัพท์ : 044 009 900-5
เว็บไซต์ : www.primopiazza.com

ที่อยู่ : ถ.เขาใหญ่-มวกเหล็ก ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ขอขอบคุณภาพจาก edtguide

ชวนชิมเด็ดๆไปกับเมนูส้มตำรสเด็ด ที่ร้าน ‘ตำแหลกทะลุบึง สาขา 3′

   ชวนชิมเด็ดๆไปกับเมนูส้มตำรสเด็ด ที่ร้าน ‘ตำแหลกทะลุบึง สาขา 3′ พี่เมฆเจ้าของร้านบอกกับลุงยิ้มว่า หน้าร้านปัจจุบันนี้พึ่งเปิดได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น โดยปกติจะขายแบบรถเข็นที่บึงแก่นนครตอนเย็น

เมนูที่ทางร้านมีให้บริการก็มีทั้งเมนูตำหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ตำซั่ว ตำมั่ว ตำผลไม้ ตำถั่ว ตำแตง ตำปูปลาร้า

เครื่องเคียงต่าง ๆ ก็มีทั้ง แคบหมู หนังไก่ทอด ผัดหมี่ ไข่ต้ม

พิกัดของร้านตั้งอยู่ ถ.โพธิสาน แถวโรงแรมคูณหลวงรีเจ้นท์ ร้านเปิดทุกวัน ช่วงกลางวันตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง บ่าย 2 ช่วง บ่าย 3 ถึง 2 ทุ่ม ขายที่บึงแก่นนคร และช่วงกลางคืน 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่มโทร.095-669-2473

ออนทัวร์ไปกับ เยี่ยมชมความงดงามของศูนย์ศิลปาชีพด้านผ้าไหม โด่งดังไกลทั่วโลก ที่ ‘ศาลาไหมไทย’

   ศาลาไหมไทย หรือ “อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา มหาราชินี” ตั้งอยู่บริเวณวิทยาลัยการอาชีพ ขอนแก่น เป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2535 เพื่อเป็นศูนย์สืบสาน พระราชปณิธาน งานศิลปาชีพด้านผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมของภาคอีสาน รวมทั้งเป็นศูนย์อนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมและขนบ ธรรมเนียมประเพณีของชาวอีสาน

ภายในอาคารจัดแสดงกรรมวิธีการ ผลิตตั้งแต่มัดย้อมจนถึงวิธีการทอ อุปกรณ์เครื่องใช้เกี่ยวกับไหมและของเก่าแก่ควรอนุรักษ์ รวมถึงผ้าไหมมัดหมี่โบราณลวดลายต่างๆ ที่พิเศษ ที่สุดคือที่นี่จัดแสดงผ้าไหมมัดหมี่ที่แพงที่สุด ในโลกฝีมือชาวอ.ชนบท และเคยชนะการประกวดผ้าไหมของเอเชีย พร้อมทั้งได้รับพระราชทาน ถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี

การเดินทางมายัง ศาลาไหมไทย จากขอนแก่น ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ขอนแก่น-โคราช) 44 กม. เลี้ยวขวาที่สี่แยก บ้านไผ่เข้าทางหลวงหมายเลข 229 ไปอีก 11 กม. ศาลาไหมไทยอยู่ทางซ้ายมือ (ตรงข้ามกับหนอง กองแก้ว หนองน้ำงดงามของอำเภอชนบท)

ศาลาไหมไทยเปิดให้เข้าชมเวลา 09.00 น.-17.00 น. หยุดทุกวันพุธ โทร.043-286-218 โทรสาร 043-286-031

เปิปพิศดาร ไปกับ แมงป่องเคลือบช็อกโกแล๊ต

เปิปพิศดาร ไปกับ แมงป่องเคลือบช็อกโกแล๊ต

   ปฏิเสธไม่ได้เลยกับ ช็อคโกแล๊ตที่ หลายๆคนต้องบอกเลยว่าชอบมาก ถึงมากที่สุดอย่างแน่นอนคะ แต่ถ้าคุณเห็นการนำช็อกโกแลตมาประยุกตร์ แบบนี้แล้วหละ

    ก็รับรองว่าคุณต้องเบือนหน้าหนี อย่างแน่นอนคะ เพราะนี่คือของว่า อาหารเย็นของคนชั้นสุงที่ลอนดอนนิยมทานกันคะ นั่นก็คือ  แมงป่องเคลือบช็อกโกแล๊ต นั่นเองจ้า ที่ ฟอร์ทนัม แอนด์ เมสัน เค้าแนะนำมาจ้า เพราะมันเป็นอาหารขึ้นชื่อ ของทีนี่เลยหล่ะ เป็นแมงป่องทอด กรอบๆ แล้วเอามาเคลือบด้วยความหวานหอม อร่อยอย่างช้อกดกแลตจ้า ซึ่งเป้นแมงป่้องที่หาได้ในประเทศจีน มันจะถูดส่งไปรีดพิษไกลถึงสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว จากนั้นจึงค่อยนำมาจุ่มลงในช็อคโกแลตจ้า คุณจึงมั่นใจได้ว่า คุณทานมันเข้าไปแล้วคุณจะไม่ตายอย่างแน่นอนคะ นอกจากนั้นเค้ายังว่ากันมาว่า ทานแมงป่อง ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วยนะคะ ลองหาทานดูนะคะ เผื่อชอบคะ 

ขอขอบคุณภาพจาก catdumb

สตอรี่ดีๆไปกับ วิธีดับกลิ่นปากที่รับรองได้ว่า กลิ่นต้องจบและสยบให้วิธีนี้แน่นอนคะ

วิธีดับกลิ่นปาก

1. แปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดกลิ่นปากได้ แต่ต้องแปรงให้ถูกวิธี แล้วอย่าลืมแปรงตามซอกเหงือกและกระพุ้งแก้มด้วยละ (การแปรงฟันไม่ถูกวิธีก็นำมาซึ่งกลิ่นปากแบบไม่น่าเชื่อได้นะเอ่อ)
2. ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อช่วยขจัดเศษอาหารและกำจัดเชื้อโรคออกให้หมด
3. ทำความสะอาดลิ้น โดยธรรมชาติแล้วลิ้นของเราผิวจะขรุขระ ไม่เรียบ จึงเป็นที่กักของเศษอาหารต่าง ๆ จากการศึกษาพบว่าแบคทีเรียที่มีผลต่อกลิ่นปากมักอยู่ตามโคนลิ้นมากกว่าที่เหงือกและฟัน ดังนั้นการทำความสะอาดลิ้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลสุขภาพช่องปากและลดกลิ่นปาก วิธีการทำความสะอาดลิ้นทำได้ง่าย ๆ โดยใช้แปรงสีฟันแปรงลิ้นให้ลึกถึงโคนลิ้นในขณะแปรงฟัน หรือใช้ไม้ขูดลิ้นขูดฝ้าบนลิ้นออก โดยขูดจากโคนลิ้นมาด้านหนา ทำประมาณ 3-4 ครั้ง ก็จะเห็นคราบอาหารติดออกมา โดยควรทำวันละ 2 ครั้งต่อวัน ตอนตื่นนอนและก่อนนอน นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีกากก็ช่วยถูลิ้นได้เช่นกัน เช่น สับปะรด อ้อย เป็นต้น
4. ฝึกใช้ไหมขัดฟัน (Dental Floss) หลังการแปรงฟันให้เป็นนิสัย อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันได้ เมื่อใช้ Dental Floss เสร็จแล้วก็ให้เอาขึ้นมาดม ถ้าดมแล้วยังมีกลิ่นเหม็นก็ให้เปลี่ยนไหมใหม่ หรือจะใช้อันเดิมนำมาล้างน้ำเอาก็ได้ ใช้จนกว่าไหมจะแตก (ถ้าใช้ไหมแบบแผ่นฟิล์มมันจะไม่แยก) ให้ขัดไหมไปทุก ๆ ซี่
5. ฝึกใช้ไหมขัดฟัน (Dental Floss) หลังการแปรงฟันให้เป็นนิสัย อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันได้ เมื่อใช้ Dental Floss เสร็จแล้วก็ให้เอาขึ้นมาดม ถ้าดมแล้วยังมีกลิ่นเหม็นก็ให้เปลี่ยนไหมใหม่ หรือจะใช้อันเดิมนำมาล้างน้ำเอาก็ได้ ใช้จนกว่าไหมจะแตก (ถ้าใช้ไหมแบบแผ่นฟิล์มมันจะไม่แยก) ให้ขัดไหมไปทุก ๆ ซี่
6. 
7. บ้วนปากน้ำเปล่า หากไม่สะดวกที่จะแปรงฟัน ก็ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าแทน วิธีนี้ถึงแม้จะไม่ช่วยแก้ปัญหากลิ่นปากได้มากนัก แต่มันก็ช่วยได้บ้าง
8. เลือกใช้น้ำยาบ้วนปากยามจำเป็น ใช้เสริมการแปรงฟัน หรือใช้ในยามจำเป็นหากคุณไม่สะดวกที่จะแปรงฟัน หรือใช้เป็นครั้งคราวในกรณีที่คุณต้องการความมั่นใจ (ไม่แนะนำให้ใช้เป็นกิจวัตรประจำวัน) เนื่องจากประสิทธิภาพของน้ำยาบ้วนปากสามารถช่วยลดกลิ่นปากได้ชั่วคราวประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น และไม่ได้ช่วยกำจัดสาเหตุที่แท้จริงออกไป โดยทันตแพทย์จะแนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากในกรณี เช่น ผู้ที่สุขภาพช่องปากไม่ดี ปากเป็นแผล เป็นโรคเหงือก มีการผ่าตัดเหงือก หรือผู้ที่มีแนวโน้มฟันผุง่าย เป็นต้น แต่สำหรับผู้ที่มีสุขภาพช่องปากเป็นปกติดีก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ เพราะการใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานอาจทำให้เชื้อราในช่องปากเพิ่มขึ้นเพราะสมดุลในช่องปากเสียไป
9. สเปรย์ระงับกลิ่นปาก อีกทางเลือกหนึ่งของความสะดวกสบาย แนะนำให้ใช้ยามจำเป็นเท่านั้น ถ้าเลือกได้ก็แปรงฟันเอาดีกว่าครับ
   
10. เคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม ถ้าเลือกขจัดกลิ่นปากด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่ง ก็ควรเลือกหมากฝรั่งชนิดที่ไม่มีน้ำตาล แต่วิธีนี้ก็ช่วยดับกลิ่นปากได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
11. ยาสีฟันผสมเกลือ ลองใช้ยาสีฟันผสมเกลือดู หรือจะใช้เกลือเพียงอย่างเดียวนำแปรงฟันก็ได้ (ถ้าทนไหว) เพราะเกลือจะช่วยระงับกลิ่นปากได้ ถ้าแปรงได้ไม่ลึกก็ให้ใช้น้ำเกลือกลั้วคอแทน
12. อมน้ำเกลือช่วยได้นะ หลังแปรงฟันเสร็จให้คุณผสมน้ำครึ่งแก้วกับเกลือ (ใช้ประมาณครึ่งช้อนชา เอาให้เค็ม ๆ หน่อย) ใช้บ้วนแทนน้ำ แล้วอมไว้ประมาณ 3-5 นาที จากนั้นจึงบ้วนด้วยน้ำเปล่าตามอีกครั้ง วิธีนี้คนจัดฟันที่กังวลเรื่องกลิ่นปากก็ใช้ได้นะ ลองทำดูได้เลย
13. เปลี่ยนแปรงสีฟัน หากแปรงเสียก็เปลี่ยนแปรงซะ เพราะประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของแปรงใหม่ย่อมดีกว่าเก่า และให้เลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่มปลายขนแปรงเรียว
14. เครื่อง Water Flosser (ยี่ห้อ Waterpik) หรือเครื่องทำความสะอาดช่องปากและฟันด้วยแรงดันน้ำ (เครื่องละประมาณพันกว่าบาทขึ้นไป มีหลายรุ่นหลายและมีหลายฟังก์ชันให้เลือก) แต่ถ้างบไม่พอก็ลองใช้ฝักบัวในห้องน้ำดูก็ได้ครับ โดยลองเปิดน้ำให้สุดแล้วเอาฝักบัวมาต่อเข้าที่ปาก เพื่อให้แรงดันน้ำมันฉีดเข้าไปที่ซอกฟันให้ทั่ว จากนั้นก็ให้ถอดหัวฝักบัวออกเหลือแต่สาย แล้วเอานิ้วปิดรูท่อน้ำให้เหลือรูเล็ก ๆ เพื่อให้แรงดันน้ำยิ่งพุ่งแรงขึ้น แล้วเอาแหย่เข้าปากไปฉีดที่ฟันข้างกระพุ้งแก้มและโดยรอบประมาณ 1 นาที โดยไม่ต้องบ้วนน้ำยาบ้วนปากอีก (ข้อมูลจาก : pantip.com by สมาชิกหมายเลข 1238832)
    
15. หมั่นตรวจสุขภาพฟันและช่องปากกับทันตแพทย์อยู่เสมอ ไม่ต้องรอให้เกิดปัญหาในปากและฟันแล้วค่อยไปหาหมอ
16. ขูดหินปูน เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละครั้ง หินปูนเป็นอีกสาเหตุหลักของการเกิดกลิ่นปากที่คุณไม่ควรมองข้าม สำหรับใครที่ลองมาหลายวิธีแล้วแต่ลืมไปขูดหินปูนก็รีบไปจัดการด่วนเลยครับ
    
17. ยับยั้งฟันผุ โดยการอุดฟันซี่ที่มีการผุ ถ้าผุจนทะลุโพรงประสาทก็ต้องรักษารากฟัน ถ้าผุมากจนไม่สามารถเก็บฟันไว้หรือรักษาให้ดีเหมือนเดิมได้ ก็ต้องถอนออกแล้วใส่ฟันปลอม
18. รักษาแผลในช่องปาก ในขณะเกิดแผลในช่องปากไม่ควรละเลยการทำความสะอาดช่องปากหลังการรับประทานอาหาร ควรแปรงฟันในทันที โดยใช้แปรงปัดเบา ๆ เพื่อไม่ให้คราบอาหารเกาะฟันนานและแปรงออกได้ง่าย แต่ถ้าแปรงฟันหรืออ้าปากไม่ได้ก็ให้บ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่น ๆ ทุกครั้งหลังการรับประทาน และใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นพันนิ้วเช็ดฟัน เมื่อแผลหายกลิ่นปากก็จะหายไป
19. รักษานิ่วในต่อมทอนซิล หากคุณเป็นนิ่วในต่อมทอนซิล ในอดีตหากจะกำจัดปัญหานี้ให้หายขาดก็คงต้องทำการผ่าตัด แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาขึ้นมากจึงไม่จำเป็นต้องตัดทิ้งแล้ว วิธีที่ดีและทันสมัยกว่าก็คือ “การรักษาด้วยเลเซอร์” ซึ่งผู้ป่วยไม่ต้องตัดทั้งต่อมทอนซิลทิ้งไป แถมยังเสียเลือดน้อย ฟื้นตัวได้เร็วกว่า นอนค้างที่โรงพยาบาลคืนเดียวก็กลับบ้านได้
20. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยล้างแบคทีเรียออกจากน้ำลายได้
21. อย่าปล่อยให้ปากแห้ง เพราะจะทำให้ความเข้มข้นของแบคทีเรียในช่องปากมีเพิ่มมากขึ้นจนทำให้เกิดกลิ่นปากได้
22. เลิกการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่นอกจากเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่ทำให้โรคปริทันต์รุนแรงมากขึ้น และกลิ่นของบุหรี่ที่ตกค้างอยู่ในช่องปากเมื่อผสมกับกลิ่นอื่น ๆ ก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเฉพาะได้
23. ดื่มน้ำมะนาว เพราะน้ำมะนาวจะช่วยเพิ่มปริมาณของน้ำลายได้
24. น้ำมันมะพร้าวช่วยได้ เชื่อๅหรือไม่ว่าน้ำมันมะพร้าวก็ช่วยดับกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ของคุณได้ ด้วยการใช้น้ำมันมะพร้าวมาอมไว้ภายในปาก จากนั้นค่อย ๆ เคลื่อนน้ำมันไปให้ทั่วประมาณ 15-20 นาที แล้วบ้วนออก
25. รับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารเยอะ ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดกลิ่นปากได้
26. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก
27. อาหารที่มีน้ำตาลและที่เป็นกรด ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากและฟันผุได้ จึงควรหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณหรือความถี่ในการรับประทานที่มีรสหวาน ไม่รับปะทานอาหารหวานเป็นของว่าง หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่เป็นกรด เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ถ้าจะดื่มก็ให้ดื่มโดยไม่ต้องอม ให้เลือกดื่มน้ำ ชา หรือนม แทนเครื่องดื่มที่เป็นกรด และให้แปรงฟันหลังจากดื่มเครื่องดื่มที่เป็นกรดไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
28. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แม้ว่าคุณกำลังจะลดน้ำหนักหรือความอ้วนอยู่ก็ตาม
29. ผักผลไม้ดับกลิ่นปาก ผักผลไม้บางชนิดก็ช่วยลดกลิ่นปากได้ เช่น การเคี้ยวใบผักชีฝรั่งหรือใบสะระแหน่หลังการรับประทานอาหาร การรับประทานอโวคาโด (เพราะเนื้ออโวคาโดจะช่วยกำจัดอาหารที่เน่าเสียตกค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก) รับประทานกล้วย มังคุด ทับทิม บ๊วย หรือแม้แต่วิตามินหรือสารบางชนิดก็ช่วยลดกลิ่นปากได้ เช่น วิตามินบี3, คลอโรฟิลล์, เบกกิ้งโซดา เป็นต้น
30. สมุนไพรดับกลิ่นปาก สมุนไพรหลายชนิดสามารถดับกลิ่นปาก เช่น การเคี้ยวหมาก, เคี้ยวรากแมงลักคา, เคี้ยวใบคนทีสอ, เคี้ยวใบฝรั่ง, ใบกะเพรา, ใบพาร์สลี่ย์, ใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำมาใช้กลั้วคอ, ใช้ใบขลู่สดนำมาตำผสมกับเกลือกิน, ใช้รากหูเสือนำมาแช่กับน้ำแล้วนำมากินและอมบ่อย ๆ, การอมดอกกานพลู, การเคี้ยวเหง้าขมิ้นอ้อย, ว่านชักมดลูก, แก่นตะวัน, ขิง, ข่า, น้ำต้นกล้าข้าวสารีอ่อน, ชาเขียว เป็นต้น
31. ดับกลิ่นปากด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยขอแนะนำ 2 สูตรน้ำยาดับกลิ่นปากจากธรรมชาติ โดยสูตรแรกคือ สูตรขิงและมะนาว โดยให้ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา, น้ำขิงสด 1 ช้อนชา และน้ำอุ่น 1 แก้ว นำมาผสมให้เข้ากัน ใช้กลั้วปากวันละ 1 ครั้ง หลังการแปรงฟันตอนเช้า และสูตรใบฝรั่ง โดยให้นำใบฝรั่งมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำเกลือ 0.9% ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เสร็จแล้วกรองเอาแต่น้ำเก็บมาไว้ใช้บ้วนปาก

สรุป คุณควรไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพฟันและช่องปาก หากมีโรคในช่องปากก็รักษาให้หายดีเสียก่อน แล้วทำการขูดหินปูนเป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน แปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธี ลิ้น โคนลิ้น ซอกเหงือก กระพุ้งแก้มแปรงให้เรียบ ใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังการแปรงฟัน เพียงเท่านี้ก็ไม่มีกลิ่นปากมารบกวนแล้วคะ

ชวนชิม อิ่มอร่อยไปกับ อาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม ที่ร้าน ‘Milky Memories’

  ร้าน Milky Memories หรือร้านนมแห่งความทรงจำ เกิดจากความใฝ่ฝันที่อยากจะมีร้านนมเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง เมนูต่าง ๆ ของร้านก็เกิดจากการลองผิดลองถูก ศึกษาด้วยตัวเองของคุณริท เจ้าของร้าน ส่วนเมนูอาหารต่าง ๆ ที่มีเพิ่มเข้ามา ก็เป็นฝีมือของพี่สาวของคุณริท ที่มีประสบการณ์เป็นผุ้ช่วยกุ๊กที่ กรุงเทพฯ มาก่อน

เมนูส่วนใหญ่ของที่ร้าน ก็จะเน้นไปที่เมนูของหวานและเครื่องดื่มเป็นหลัก ของหวานขึ้นชื่อของร้านก็จะมีเมนูโทสต์ ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกทั้ง กาแฟ นม สมูทตี้

ของหวานอย่างเมนู โทสต์ ที่ขอบอกเลยว่าเด็ดมาก มีให้เลือกกันหลากหลายหน้า หลายรูปแบบ

เมนูเครื่องดื่มอย่าง โกโก้ บานาน่า และ สตรอเบอรี่นมสด สดชื่น ดับกระหายได้เป็นอย่างดี

เมนูอาหารก็มีเช่นกัน สำหรับน้อง ๆ นักศึกษา หรือ ลูกค้าที่หิว ๆ มา วันนี้ที่ทางร้านจัดมาให้ลองชิม ก็มีทั้ง ยำรวมทะเล ต้มยำกุ้ง และ ไก่วิ้งซ์ รสชาติแต่ละเมนูใช้ได้เลยทีเดียว

   ร้าน Milky Memories ตั้งอยู่โซนหลังมอ ซอยหอ NP Park เลยร้าน Red Roof มานิดหน่อย ประมาณ 20 เมตร ร้านเปิดตั้งแต่ บ่ายโมงถึง 5 ทุ่ม และหยุดทุกวันเสาร์ ช่วงนี้มีโปรโมชั่นเช็คอินลด 5% และทานครบ 400 ฟรี ปังเย็น , โทสต์ , ขนมปังปิ้งโทร.080-324-8221 หรือ Facebook Fanpage : Milky Memories ร้านนมแห่งความทรงจำ หลัง มข.

ที่พักฉบับแซ่บวันนี้: โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ ขอนแก่น

 

 

 

 

 

 

   โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ ขอนแก่น

    ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 2013 ซึ่งรับรองว่าจะทำให้คุณพอใจกับการเข้าพักใน ขอนแก่น ไม่ว่าจะเพื่อธุรกิจหรือเพื่อการพักผ่อน จากที่นี้ ผู้เข้าพักสามารถไปยังทุกที่ในเมืองอันมีชีวิตชีวานี้ได้อย่างง่ายดาย นักท่องเที่ยวที่พักที่โรงแรมนี้สามารถเพลิดเพลินไปกับการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเมือง เช่น สวนรัชดานุสรณ์, ออร์คิด ช็อปปิ้ง, ตึกคอมเซ็นเตอร์

   Centara Hotels & Resorts มีชื่อเสียงในบริการที่ได้คุณภาพและพนักงานที่เป็นมิตรเอาใจใส่ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ ขอนแก่น ยังคงมาตรฐานไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โรงแรมเสนอการบริการที่หลากหลาย รวมถึง ฟรี Wi-Fi ทุกห้อง, ระบบความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, แม่บ้านทำความสะอาดรายวัน, เตาไฟ, เครื่องถ่ายเอกสาร

   สัมผัสประสบการณ์การพักสุดพิเศษกับจากสิ่งอำนวยความสะดวกคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ตไร้สาย (ไม่เสียค่าใช้จ่าย), อ่างน้ำวน, ห้องปลอดบุหรี่, เครื่องปรับอากาศ, โต๊ะเขียนหนังสือ ที่ช่วยเติมพลังให้คุณหลังจากวันที่แสนยาวนาน โรงแรมได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทางนันทนาการไว้บริการ อย่างเช่น ห้องฟิตเนส, ซาวน่า, สระว่ายน้ำกลางแจ้ง, สปา, บริการนวด ที่จะทำให้การเข้าพักของคุณน่าประทับใจไม่มีวันลืม ไม่ว่าคุณจะไป ขอนแก่น ด้วยจุดประสงค์ใด โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ ขอนแก่น เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการพักผ่อนอย่างมีความสุขและน่าตื่นตาตื่นใจ

ที่อยู่ 999 หมู่ 4, ถนน ประชาสโมสร,, ตัวเมืองขอนแก่น, ขอนแก่น, ประเทศไทย 40000

ที่พัก ฉบับแซ่บ : ยู พัทยา (U Pattaya) ที่พักสุดโรแมนติกริมทะเลพัทยาที่หลงรักหมดใจ

   ยู พัทยานั้นตั้งอยู่ที่ริมชายหาดบริเวณจอมเทียน-บางเสร่

     

 

    ซึ่งรับรองเลยได้ว่าทะเลตรงนี้เป็นทะเลที่สวย สงบน้ำใส ถ้าไม่บอกว่าอยู่พัทยา อาจจะคิดว่าที่นี่ตั้งอยู่ที่ภูเก็ตกันเลยล่ะค่ะ

   ส่วนการเดินทางก็มาง่ายมากจากถนนสุขุมวิทเลี้ยวเข้ามาที่ซอยนาจอมเทียน56/3 ก็จะพบยู พัทยาตั้งอยู่ริมทะเล คอนเซ็ปต์ของยู พัทยานั้นคือ "หมู่บ้านชาวประมง" โดยเขาจะนำวัสดุจากท้องถิ่นเช่นไม้ และไม้ไผ่ ออกแบบให้ที่นี่ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 44 ห้อง ซึ่งจะมีทั้งแบบห้องพัก25 ห้อง และแบบวิลล่า 19 ห้อง ส่วนบริการต่างๆ ภายในโรงแรมประกอบไปด้วย ฟิตเนสเซ็นเตอร์ ที่สามารถชมวิวทะเลได้ U Spa บริการสปาทั้งแบบไทยและแบบยุโรป และจักรยานที่ให้บริการฟรี 

พอเข้ามาก็ประทับใจกับการดีไซน์ของที่นี่ ซึ่งคอนเซ็ปต์ของยู พัทยานั้นคือ "หมู่บ้านชาวประมง" โดยเขาจะนำวัสดุจากท้องถิ่นเช่นไม้

ที่ตั้ง : 70/14 หมู่ 8 ซอยนาจอมเทียน 56/3 สัตหีบ ชลบุรี 

ราคา : 2,999 - 30,000 บาท

ขอขอบคุณข้อมูล chillpainai